วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Installing and Configuring Windows Server 2012 part 2

Configure Servers

การ Configure Server สามารถทำได้ สองแบบ คือ

ใน GUI เราสามารถทำได้ผ่านทาง Server Manager
ซึ่งก็คือการใช้ เมาส์ คลิกในสิ่งที่เราต้องการทำ ต้องการรัน เป็นรูปแบบที่คุ้นเคย

ส่วนใน Server Core เราสามารถทำได้ผ่านทาง Command-line tools

สำหรับบางคนที่ไม่เคยใช้งาน Linux ออกจะไม่ชินเพราะทุกอย่างที่คุณจะทำ จะรัน ต้องทำผ่าน command-line only
ตย. บางคำสั่งในการในงาน
  • PowerShell เพื่อเข้าใช้งาน PowerShell โหมดสังเกตุว่าจะมี PS อยู่ข้างหน้า C:\
  • Shutdown /r ใช้เพื่อ restart เครื่อง
  • NETDOM JOIN /d:devgroup.microsoft.com myserver /OU:OU=Days, OU=Workstations, DC=microsoft, DC=com เป้นการใช้คำสั่ง Netdom เพื่อ join domain ในตัวอย่างนี้ จะเป็นการ join คอมพิวเตอร์ชื่อ myserver เข้าสู่โดเมน devgroup.microsoft.com ใน OU ชื่อ Days ที่อยู่ภายใต้ OU ชื่อ Workstations (อันนี้มันออกในข้อสอบที่ Dump มาทุกเจ้าเลย เรื่อง Netdom)
  • Install-WindowsFeature Server-Gui-Mgmt-Infra, Server-Gui-Shell –Restart –Source c:\mountdir\windows\winsxs อีกสัก ตย. หนึ่ง อันนี้คือการ convert Server Core ไปเป็น GUI สิ่งที่แตกต่างจาก Entry ที่แล้วคือ -Source สิ่ง คำสั่งนี้ใช้ระบุไปยัง location ที่ contains files ที่ใช้ในการติดตั้ง Windows Feature (ข้อสอบมักถามว่า Folder ไหนเก็บ Operating Module คำตอบคือ Winsxs)
Configuring NIC (network interface card) teaming
ใน Windows Server 2012 รองรับการทำ NIC teaming 2 modes
  1. Switch Independent Mode: คือการที่ NIC connect กับ network เดียวกันแต่ไม่ไช่ Switch (Routes) เดียวกัน การทำแบบนี้ NIC ตัวนึงจะ config Status จะเป็น Active/Active ส่วน NIC อีกตัวนึง config Status จะเป็น Active/Standby เมื่อ NIC ที่ Active/Active เกิด Fail ขึ้นมา Server จะยังสามารถเชื่อมต่อกับ Network ได้ โดยผ่านทาง NIC ที่ config Active/Standby
  2. Switch Dependent Mode: คือการที่ NIC ทั้งหมดเชื่อมต่อกับ network ผ่านทาง Switch (Routes) เดียวกัน เพื่อเพิ่มขนาดของ bandwidth ให้ใหญ่ขึ้น

ข้อมูลเพิ่มเติมและอยากขั้นตอนว่าทำยังไงเข้าไปที่ Link นี้ครับ

Using Server Manager
Server Manager คือหน้าต่างที่ขึ้นมาให้อัตโนมัติหลังจากที่เรา Login เข้า Windows Server ซึ่งส่วนใหญ่เรากดปิดมันไปทั้งๆที่มันยังโหลดไม่เสร็จ 555+ ใน Windows Server 2012 ได้มีการปรับปรุง Server Manager ให้มีความสำคัญและเป็นเหมือนกับ Control Center คุณแทบจะทำทุกอย่างได้จากหน้านี้ แม้กระทั้งติดตั้ง Role เพิ่มเติมบน Server ตัวอื่น ^_^

1.Adding Server
     นี้คือสิ่งที่ได้เปรียบของ Windows Server 2012 กุ๊ยโหมด (GUI) เราสามารถ Add Server เข้ามาที่ Server Manager เพื่อที่จะได้ Manage ในที่เดียว และ Server ที่จะ Add เข้ามาเป็น Physical หรือ Visualization ก็ได้ แถมยังรองรับตั้งแต่ Windows Server 2003 *_* หน้าตาของ Server Manager ก็ข้างล่างเลยครับ (กุ๊ยทำได้แต่ขั้นตอนยากกว่าคลิกเอา อิอิ)
     จะสังเกตุได้ว่า ที่ All Server มีค่าเท่ากับ 1 เมื่อเราทำการ Add Server ตามขั้นตอนด้านล่างเลขนี้จะเปลี่ยนไปน่ะครับ

     ขั้นตอนการ Add Server
     ให้เลือกที่ Manage จากนั้นเลือก Add Server

     จะมีหน้าต่าง Add Server เพิ่มขึ้นมา
    • Active Directory tab คือค้นหาจาก Active Directory Domain Services (AD DS)
    • DNS tab คือค้นหาจาก Domain Name Server (DNS)
    • Import tab คือค้นหาจาก .txt ไฟล์ที่ containing รายชื่อของ Server
     ในตัวอย่างนี้ผมเลือกค้นหาแบบ AD DS ผมเลยกดที่ปุ่ม Find Now
     จะมีรายชื่อขึ้นมาให้ทางกรอบซ้ายมือ จากนั้นให้เราคลิกที่ชื่อ Server ที่เราต้องการ Add จากนั้นกดปุ่มลูกศร เพื่อเพิ่มไปยังกรอบขวามือ จากนั้นกดปุ่ม OK

     หลังจากนั้นที่ Dashboard จะสังเกตุได้ว่า All Server มีค่าเท่ากับ 2 

2. Adding Roles and Features
     ด้วย Server Manager ใน Windows Server 2012 เราสามารถเพิ่ม/ลบ Roles and Features  สำหรับ Multiple Server ในที่เดียว อย่างเช่นตัวอย่างด้านบน เราสามารถ Add/Remove any Roles and Features เข้าไปใน Server ที่เราเพิ่งเพิ่มเข้ามา
     จากหน้า Server Manager ให้เราเลือก Manage แล้วคลิก Add Roles and Features

     จากนั้นจะเป็นหน้า Before you begin สามารถ check box ข้างล่างเพื่อให้ไม่แสดงอีก

     หน้าต่าง Select installation type มี 2 ตัวเลือก (ทั้งสองตัวข้อมุลยังไม่แน่น เด๋วตามมาแก้ให้)
    • Role-based or feature-based Installation ติดตั้ง Roles and Features
    • Remote Desktop Services Installation ติดตั้ง Remote Desktop Services Roles เพื่อที่รองรับโปรแกรมอื่นๆ เช่น Remote Apps and Desktop
     เลือกตัว Server ที่จะติดตั้ง Roles and Features ในเคสนี้ผมเลือกติดตั้งที่ตัว Server ที่เพิ่งเพิ่มเข้ามา

     ผมเลือกที่จะติดตั้ง DHCP Server

     เมื่อคลิกที่ DHCP Server จะมีหน้าต่าง Add Roles and Feature Wizard เพื่อติดตั้งส่วนประกอบที่ DHCP Server ต้องการ ให้เราคลิก Add Features แล้วกด Next

     หลังจากนั้นจะแสดงหน้าต่าง Features ให้กด Next เพื่อข้ามไป

     แสดงหน้าอธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่เรากำลังจะติดต้ัง (DHCP Server)

     บาง Roles and Features อาจจะต้องการ การ Restart เพื่อให้การลงสมบูรณ์ คลิกที่ Restart the destination server automatically if required จากนั้นเลือก Install

     จะมีหน้าต่างแสดงความคืบหน้าในการติดตั้ง

     หน้าต่างแสดงการติดตั้งเสร็จแล้ว ให้เรากด Close

     จะสังเกตุว่าทางซ้ายมือมี DHCP เพิ่มเข้ามา และมีธงเหลืองขึ้น ให้เราคลิกที่ธงเหลืงดูว่ามันมีอะไรไม่ถูกต้อง จากรูปข้างบน มันต้องให้เรา Complete DHCP installation เราก็กดเข้าไปได้เลย

     ถ้าติดตั้ง DHCP Server จะมีหน้าต่างนี้ขึ้นมาให้เรากด Next

     หน้าต่างนี้จะให้เราเลือกว่าจะ Authorization โดยใช้ Credentials ของใคร ส่วนใหญ่เลือกที่มี Admin Right น่ะครับ อันนี้ผม Login ด้วย Admin account เลยกด Commit ไปได้เลย

     แสดง status ของการสร้าง Permission อันนี้ไม่มีปัญหาอะไร กด Close เป็นอันจบ

3. Deploying roles to VHDs
     แปลกันแบบตรงๆตัวตามข้างบนก็คือ Feature ของการ Add/Remove Roles and Features ให้กับ Visual Machine (VMs) โดยที่ VMs นั้นต้องอยู่ในสถานะ Offline
     โดยที่ขั้นตอน Select Destination Server ให้เราเลือก "Select a visual hard disk" แล้วให้กด browse เพื่อเลือก .vhd หรือ .vhdx ไฟล์
     ขั้นตอนที่เหลือก็เหมือนในส่วนของ Adding Roles and Features ด้านบนครับ

ภัทร์ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น